Last updated: 12 ธ.ค. 2560 | 2980 จำนวนผู้เข้าชม |
‘ศปถ.’ สรุปสงกรานต์ 4 วัน ดับแล้ว 226 ราย ‘อาคม’ สั่งเตรียมพร้อมรับประชาชนเดินทางกลับ
เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2560 เวลา 10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 โดย ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 14 เมษายน เป็นวันที่ 4 ของการรณรงค์ เกิดอุบัติเหตุ 642ครั้ง ผู้เสียชีวิต 57ราย ผู้บาดเจ็บ 664 คนรวม 4 วัน (วันที่ 11-14 เมษายน) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,385 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 226 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,457 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาแล้วขับ 315 ครั้ง ร้อยละ 44.08 ขับรถเร็ว 189 ครั้ง ร้อยละ 27.41 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 554 คัน ร้อยละ 84.45 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 62.77 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 41.12 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 32.09 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 30.84 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 19.14 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,041 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,177 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 847,333 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 149,345 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 41,755 ราย ไม่มีใบขับขี่ 39,197 ราย
นายอาคม กล่าวต่อว่า สำหรับจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่และอุดรธานี 33 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น และเพชรบูรณ์จังหวัดละ 4 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่และอุดรธานีจังหวัดละ 32 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนรวม 4 วัน (วันที่ 11-14 เมษายน) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,385 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 226 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,457 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 12 จังหวัด จังหวัดที่ไม่มีผู้บาดเจ็บในช่วง 4 วัน ได้แก่ ชัยภูมิ จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 114 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 13 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 119 คน
นายอาคมกล่าวว่า กล่าวว่า หลังรัฐบาลได้สั่งการให้ปรับรูปแบบการประเมินสถิติอุบัติเหตุโดยวัดจากสาเหตุพบว่า ตัวผู้ขับขี่และสภาพรถเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการปรับแผนตั้งด่านตรวจให้ชะลอความเร็ว และประชาสัมพันธ์ให้ดูป้ายสัญญาณจราจร และได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์กรส่วนท้องถิ่น ตั้งด่านชุมชนเพื่อช่วยสกัดกั้น ผู้ขี่รถรถจักรยานยนต์ ที่เมาแล้วขับจะช่วยลดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิต รวมถึงการเน้นย้ำให้ขับรถช้า เปิดไฟหน้ารถตอนกลางวัน และคาดเข็มขัดนิรภัย
“ผมขอยืนยันไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการทางกฎหมายในอนาคต เพราะการบังคับใช้กฎหมายขณะนี้เหมาะสมแล้วแต่ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและจิตสำนึก การดูแลประชาชนช่วงขากลับเข้ากรุงเทพฯที่จะมีปริมาณรถหนาแน่นมากว่าขาออก ทางกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเพิ่มการรักษาความปลอดภัย และอำนวยสะดวกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมากยิ่งขึ้น”นายอาคม กล่าว