'สว.สุทนต์' ปธ.อนุกรรมาธิการองค์กรอิสระฯ เร่งผลักดันการทำงานด้านการป้องกันการทุจริตในภาครัฐ

'สุทนต์ กล้าการขาย' ประธานคณะอนุกรรมาธิการ นำการประชุมคณะอนุกรรมาธิการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ผลักดันการทำงานด้านการป้องกันการทุจริตในภาครัฐ

          เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 เวลา 13.30 นาฬิกา ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ CA 334 นายสุทนต์ กล้าการขาย สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมาธิการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ในคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา พร้อมด้วย นายชยชัย  แสงอินทร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นางขนิษฐา จิรพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านยุทธศาสตร์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต และนางสาวพรหมพรรณ สายทองคำ ผู้อำนวยการกองป้องกันการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เข้าร่วมประชุม

          ภายในการประชุมได้มีการพิจารณา ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการผลักดันการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระดับจังหวัด ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบกลไกและโครงสร้างการทำงานด้านการป้องกันการทุจริตในภาครัฐที่มี 3 ระดับ ประกอบด้วย ระดับพื้นที่ปฏิบัติการ ระดับอำนวยการ และระดับนโยบาย ตลอดจนได้รับทราบนโยบายในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐที่มุ่งปรับปรุงและพัฒนางานเดิมนำไปสู่การพัฒนาที่มีประสิทธิภาพให้เป็นงานใหม่โดยการลงพื้นที่ก่อนเกิดเรื่องและแก้ไขปัญหาทันทีเมื่อมีเหตุ และมีการวางกลไกระดับปฏิบัติโดยเครือข่าย PACC ต้านทุจริต ด้วยการสร้างคน (เครือข่ายฯ) เปิดเวทีสาธารณะ สร้างงาน เปิดบ้าน และสร้างแรงจูงใจโดยการมอบรางวัลให้กับผู้ปฏิบัติเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจและเพื่อให้เครือข่ายยั่งยืน แต่ด้วยปัญหาเรื่องกำลังพลที่มีน้อยและงบประมาณที่จำกัดจึงทำให้มีนโยบายในการสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็งเป็นหลักโดยสร้างความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย ภาคประชาชน และภาคเอกชน

          ทั้งนี้ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้มีการขับเคลื่อนภารกิจป้องกันและปราบปรามการทุจริตโดยกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัด ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานป้องกันและปรามปรามการทุจริตในภาครัฐ รวมตลอดจนเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ เช่น ชมรม STRONG จังหวัด และเครือข่ายอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน โดยคณะอนุกรรมาธิการจะมีการลงพื้นที่และจัดสัมมนาเพื่อศึกษาและรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจต่อไป