นายกรัฐมนตรีวอนสื่ออย่านำเสนอข่าวเพียงด้านเดียว พร้อมแจงเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการตามหลักสากล

Last updated: 1 มี.ค. 2564  |  2299 จำนวนผู้เข้าชม  | 

นายกรัฐมนตรีวอนสื่ออย่านำเสนอข่าวเพียงด้านเดียว พร้อมแจงเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการตามหลักสากล

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเจ้าหน้าที่จำเป็นใช้มาตรการดูแลผู้ชุมนุมเป็นไปตามหลักสากล วอนสื่อนำเสนอข่าว 2 ด้าน อย่าเสนอข่าวแต่ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมข้างเดียว ด้านพรรคเพื่อไทยประณามและไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึง การชุมนุมวานนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2564) ซึ่งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "Restart Democracy - ประชาชนสร้างตัว" หรือ "รีเด็ม" (REDEM) เป็นผู้นัดการชุมนุมว่า เป็นการชุมนุมรุนแรง

"ท่านไม่ดูก่อนหน้า ที่จะเกิดการชุมนุม มีความรุนแรงเกิดขึ้น แรก ๆ ก็โอเคเป็นไปตามปกติของเขา ท่านก็รู้อยู่แล้ว ว่าเขาพูดจาอะไร ก็เป็นเรื่องเขาทำถูกทำผิด ก็ว่ากันไปตามกฏหมาย" นายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ การชุมนุมครั้งนี้ได้นัดหมายการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิประมาณเวลา 15.00 น. ของวานนี้ เพื่อเคลื่อนขบวนไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักของนายกรัฐมนตรี โดยในช่วงค่ำได้มีการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่จนเกิดการสลายการชุมนุมและเกิดความรุนแรงขึ้น

ศูนย์เอราวัณสรุปข้อมูลผู้บาดเจ็บจากเหตุสลายชุมนุม เมื่อเวลา 06.30 น. มีจำนวน 33 คน เป็นเจ้าหน้าที่ 23 คน และประชาชน 10 คน โดยนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ 22 คน โรงพยาบาลรามาธิบดี 2 คน โรงพยาบาลพระรามเก้า 1 คน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 1 คน และโรงพยาบาลราชวิถี 7 คน

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ร.ต.อ.วิวัฒน์ สินเสริฐ สังกัด สน.ธรรมศาลา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วย

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การชุมนุมที่มีความรุนแรงเกิดขึ้น มีการบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ของตำรวจ และบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ ที่มีการหวงห้าม แล้วมีการใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ ต้องมีการใช้มาตรการเป็นไปตามหลักสากล ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะอยู่อย่างไรในประเทศชาติบ้านเมือง ดังนั้นก็ขอให้นึกถึงบ้านเมืองเป็นหลักด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอร้องสื่อมวลชนนำเสนอข่าวการชุมนุมทั้งสองฝ่ายและให้นึกถึงบ้านเมืองเป็นหลัก

"ผมก็ติดตามสื่ออยู่นะ ว่าทำไมถึงออกข่าวเพียงข้างเดียวว่าตำรวจใช้ความรุนแรง ถ้าไปดูก่อนหน้าที่จะเกิดการชุมนุมมีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็เป็นไปตามปกติของเขา แต่เมื่อมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นและมีการรุกเข้ามาในพื้นที่ของตำรวจ และรุกเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นพื้นหวงห้าม และมีการใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เขาก็จำเป็นต้องใช้มาตรการตามมาตรฐานสากล"

"เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้างนะ เขาต้องทำงานหนัก เขาต้องอดทน เขาต้องได้รับความรุนแรงเกิดขึ้นและเขาก็บาดเจ็บ เสียหายเหมือนกัน และการทำลายทรัพย์สินของข้าราชการ มันใช่ไหมหละ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

"เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้างนะ เขาต้องทำงานหนัก เขาต้องอดทน เขาต้องได้รับความรุนแรงเกิดขึ้นและเขาก็บาดเจ็บ เสียหายเหมือนกัน และการทำลายทรัพย์สินของข้าราชการ มันใช่ไหมหละ"  พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าวประณามและไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเรียกร้องให้รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ทบทวนท่าที และพิจารณาใช้มาตรการจัดการกับการเคลื่อนไหวของประชาชนตามมาตรฐานสากล เคารพและคุ้มครองเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ แทนการใช้มาตรการที่มุ่งเน้นจำกัดหรือสกัดกั้นการชุมนุมของประชาชน และเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิ์ทำร้ายประชาชนเกินกว่าเหตุราวกับอาชญากรร้ายแรง

ยันใช้กระสุนยาง เป็นไปตามขั้นตอนสากล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ชุมนุมวานนี้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจใช้กระสุนยาง ในการควบคุมสถานการณ์ในคืนที่ผ่านมาว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งตำรวจได้ชี้แจงไปแล้ว โดยทำตามขั้นตอน

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมว่า หากมีการชุมนุมลักษณะสร้างเงื่อนไขแบบนี้อีก จะใช้มาตรการสลายการชุมนุมแบบนี้หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจวางมาตรการ โดยไม่ต้องใช้ทหาร

ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด

ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมาว่าจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด โดยเบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาร่วมกันชุมนุม จัดกิจกรรม ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โทษจำคุก 2 ปี, ร่วมกันกระทำการใด ๆ เป็นเหตุให้แพร่ระบาด มีความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรค

นอกจากนี้ผู้ชุมนุมบางส่วนจะถูกแจ้งข้อหาในความผิด พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจได้รับบาดเจ็บมากถึง 90 คน รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ 27 คน และเสียชีวิต 1 คน ตำรวจควบคุมผู้กระทำความผิดได้ 22 คน คุมตัวไปสอบปากคำที่ ตชด. ภาค 1 จำนวน 18 คน อีก 4 คน เป็นเยาวชน ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.สุทธิสาร กำลังดำเนินการสอบปากคำตามขั้นตอนตามกฎหมาย

รู้จัก "รีเด็ม"

กลุ่ม "เยาวชนปลดแอก" เปิดตัว "รีเด็ม" เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ โดยอธิบายว่าเป็นขบวนการเคลื่อนไหวที่ "มวลชนร่วมกันเป็นเจ้าของ" และ "ไม่มีแกนนำ ไม่มีการ์ด ไม่มี STAFF ไม่มีรถเวทีที่จะรวมศูนย์ความสนใจ มีเพียงมวลชนที่จะดูแลกันและกัน สามารถร่วมกันลุกขึ้นมาต่อสู้ได้ด้วยการร่วมกันตัดสินใจ"

กลุ่มรีเด็มประกาศ "ธง" ที่พวกเขาเชื่อว่าจะนำเราไปสู่การเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง 3 ข้อ คือ

- จำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์

- ปลดแอกประชาธิปไตยขับไล่ทหารออกจากการเมือง

- ลดความเหลื่อมล้ำด้วยรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า

ทั้งนี้กลุ่มเยาวชนปลดแอกจะเป็นฝ่ายสนับสนุนและประชาสัมพันธ์การเคลื่อนไหวที่มวลชนเห็นร่วมกัน

ที่มาและเครดิตภาพ https://www.bbc.com/thai/thailand-56235884

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้