Last updated: 30 มี.ค. 2563 | 6524 จำนวนผู้เข้าชม |
ผู้ว่าฯ นนทบุรี ประกาศเข้มทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19
วันที่ 30 มีนาคม 2563 นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่าได้ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 พื้นที่จังหวัดนนทบุรี ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจและเน้นย้ำความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันตนเอง และปฏิบัติตนตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย
ข้อ 1 ให้ผู้สูงอายุตั้งแต่หกสิบปีขึ้นไป กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำตามธรรมชาติ ของโรคและด้วยยาที่ใช้รักษา อยู่แต่ในเคหสถานหรือที่พำนักของตน ยกเว้นกรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ หรือผู้เป็นนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มีอายุไม่เกิน 70 ปี โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ ทางราชการกำหนดในข้อ 11 ของขัอกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563
ข้อ 2 ให้บุคคลผู้ใกล้ชิดหรือดูแลบุคคลตามขัอ 1 ผู้สูงอายุตั้งแต่หกสิบปีขึ้นไป กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ ซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่ำตามธรรมชาติ ของโรคและด้วยยาที่ใช้รักษา) ดูแลผู้สูงอายุหรือกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวฯ ตามข้อแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้สูงอายุหรือกลุ่มคนที่ มีโรคประจำตัวฯ โดยตรง
ข้อ 3 ให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่อออกจากเคหสถานหรือที่พำนักของตน
ข้อ 4 ให้งดการจัดงานที่มีการรวมกันของคน เว้นแต่มีความจำเป็นอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ให้จัดงานเท่าที่จำเป็นให้มีผู้มาร่วมงานเฉพาะญาติใกล้ชิด หรือเท่าที่จำเป็น โดยมิให้ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หรือกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวมาร่วมพิธี ทั้งนี้ ในการจัดพิธีดังกล่าวให้ดำเนินการดังนี้ด้วย
(1) ให้ทำความสะอาดโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ ที่เกี่ยวข้องก่อนการจัดกิจกรรม และให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวัน
(2) ให้เจ้าหน้าที่ผู้ประกอบการ ผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมกิจกรรม ลูกจ้าง ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
(3) ให้ผู้จัดงานจัดให้มีอุปกรณ์สำหรับล้างมือหรือจุดล้างมือ และให้บุคคลตาม (2) ล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ทุกครั้ที่มีการสัมผัสคน สัตว์ สิ่งของ หรืออุปกรณ์ภายในงาน
(4) ให้บุคคลตาม (2) เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อยสองเมตรเพื่อป้องกันการติดต่อ สัมผัส หรือแพร่เชื้อโรคทางฝอยละอองน้ำลาย
(5) ให้ควบคุมจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมมิให้แออัด หรือลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น โดยถือหลักการหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน
(6) พิธีทอดผ้าไตรบังสุกุลให้จ้าภาพ พิจารณาเท่าที่จำเป็น โดยควรทอดไตรละไม่เกิน 1 คน
(7) กรณีที่ไม่ได้กำหนดไว้ในประกาศนี้ ให้ปฏิบัติตามข้อควรปฏิบัติ ในการจัดงานบรรพชาอุปสมบท งานมงคลสมรส และงานฌาปนกิจศพในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ของกระทรวงวัฒนธรรม
ข้อ 5 ให้เจ้าของ ผู้ดูแล หรือผู้ควบคุม กำกับ สถานที่ก่อสร้าง สถานที่ทำงาน จัดให้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 โดยอย่างน้อยต้องจัดให้มีมาตรการ ดังนี้
(1) ให้เจ้าของ หรือผู้ควบคุม กำกับ ดูแล ลูกจ้าง คนงาน ที่อยู่ในบริเวณสถานที่ก่อสร้างหรือที่ทำงานสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา
(2) ให้ผู้จัดงานจัดให้มีอุปกรณ์สำห รับล้างมือหรือจุดล้างมือ ด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ เจล หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
(3) ให้ควบคุมมิให้เกิดการแออัดในสถานที่ทำงาน โดยถือหลักการหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน
นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่าได้ดำเนินการและรณรงค์เรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ได้แก่ การจัดพื้นที่นั่งรอรับบริการในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วย โดยเว้นระยะห่างประมาณ 1 เมตร เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อในโรงพยาบาล รวมถึงการลดความแออัดในโรงพยาบาล โดยมีแนวทางการรับยาของผู้ป่วย 3 แนวทาง คือการรับยาที่โรงพยาบาล (ยืดระยะเวลาการนัด) การรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน และการรับยาทางไปรษณีย์ โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่บ้าน ลดการเดินทาง เพื่อสกัดกั้นและควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในกรณีผู้ใช้บริการหรือญาติผู้ป่วย ต้องการเข้าเยี่ยมผู้ป่วยขอแนะนำให้เยี่ยมผ่านโทรศัพท์ด้วยวิธีวิดีโอคอล หรือวิธีอื่นแทนการเดินทางมาโรงพยาบาล เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ที่มารับบริการ และลดความเสี่ยงในการรับเชื้อของท่าน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”