Last updated: 30 มิ.ย. 2566 | 4314 จำนวนผู้เข้าชม |
ที่ประชุมเสียงข้างมาก (กสทช. พลอากาศโท ดร. ธนพันธุ์ฯ , กสทช. ศาสตราจารย์ ดร. พิรงรองฯ ,กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัชฯ และกสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. สมภพฯ) มีมติเห็นชอบให้มีการเปลี่ยนตัวรองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.
สืบเนื่องจากกรณีที่ในการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ยืนยันให้ ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. ยังคงทำหน้าที่เลขานุการในที่ประชุม กสทช. หลังจากกรรมการ กสทช. 4 คน ทักท้วง
โดย ศ.คลินิก นพ.สรณ ให้เหตุผลว่า มติบอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ซึ่งที่ประชุม กสทช. มีมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 2 ต่อ 1 เสียง ให้ ไตรรัตน์ พ้นจากตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. และมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย กรณีการสนับสนุนค่าซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 600 ล้านบาท นั้น เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ ศ.คลินิก นพ.สรณ ยังระบุว่า ตนเองพร้อมรับผิดชอบ หากการให้ ไตรรัตน์ ทำหน้าที่เป็นเลขานุการในที่ประชุม กสทช. และทำหน้าที่เป็นรักษาการเลขาธิการ กสทช. ต่อไป มีผลทำให้มติของ กสทช. มีปัญหาในทางกฎหมาย นั้น
เบื้องหลังรายงานการประชุม กสทช. เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ซึ่งที่ประชุม กสทช.เสียงข้างมากมีมติให้ ไตรรัตน์ พ้นตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. และมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พร้อมทั้งแต่งตั้ง ผศ.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการ กสทช. มีดังนี้
@‘บอร์ด’ รับทราบรายงานผลสอบปมซื้อลิขสิทธิ์ ‘ฟุตบอลโลก’
ระเบียบวาระที่ 5.22 : รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย : มส. (ลับ)
สำนักงาน กสทช. เสนอเรื่อง รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อสิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (ลับ) ให้ที่ประชุมพิจารณา
อนึ่ง เนื่องจากเป็นการประชุมวาระลับ ที่ประชุมจึงขอให้ กสทช. พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ และ กสทช. รศ. ดร.พิรงรอง รามสูต เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมในวาระนี้
ประธาน กสทช. (ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์) แจ้งที่ประชุมว่า วาระเรื่อง รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ขอให้เป็นการพิจารณาประชุมลับ
และขอให้นิติกรเชี่ยวชาญพิเศษ รักษาการรองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการภูมิภาค (นายสมบัติฯ) ผู้ช่วยเลขาธิการ กสทช. (นายเฉลิมชัยฯ) และผู้อำนวยการสำนักประธานกรรมการและการประชุม ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการในการประชุมวาระนี้ ซึ่งนิติกรเชี่ยวชาญพิเศษ รักษาการรองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการภูมิภาค (นายสมบัติฯ) แจ้งที่ประชุมว่า เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจึงไม่ขออยู่ร่วมในการประชุม
มติที่ประชุม
1. รับทราบรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินการของสำนักงาน กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (รายงานฯ) ตามเอกสารที่สำนักงาน กสทช. เสนอ
2. ที่ประชุมมีการพิจารณาข้อเสนอตามรายงานฯ ข้อ 1 ที่เสนอว่า “การดำเนินการของการกระทำของนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
อาจมีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศที่เกี่ยวข้อง และมติที่ประชุม กสทช. รวมทั้งข้อเสนอของ กกท. ที่ได้ยื่นขอรับการสนับสนุนจากกองทุน กทปส. ตลอดจนบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ที่ได้ทำไว้กับสำนักงาน กสทช.” แล้วมีการพิจารณาลงมติ จำนวน 6 ครั้ง โดยมีผลการพิจารณา ดังนี้
@มีมติ 4 ต่อ 2 ต่อ 1 ตั้ง'คกก.สอบสวน'กรณีค่าลิขสิทธิ์บอลโลก
2.1 การพิจารณาลงมติในประเด็นให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2565
ผลการลงมติครั้งแรก
ที่ประชุมเสียงข้างมาก (กสทช. พลอากาศโท ดร. ธนพันธุ์ฯ ,กสทช. ศาสตราจารย์ ดร. พิรงรองฯ ,กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัชฯ และ กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. สมภพฯ) มีมติเห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2565
ประชุมเสียงข้างน้อย ( กสทช. ต่อพงศ์ฯ และ กสทช. พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธรฯ) มีมติไม่เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2565
ประธาน กสทช. งดออกเสียง
ทั้งนี้ ให้ประธาน กสทช. เป็นผู้พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ภายใน 16 วัน โดยขอให้นำความเห็น กสทช. เกี่ยวกับข้อเสนอองค์ประกอบไปพิจารณาร่วมด้วย
@ลงมติ ‘ครั้งแรก’ เสียงข้างมาก โหวตปลด ‘ไตรรัตน์’ พ้นรักษาการ
2.2 การพิจารณาลงมติในประเด็นให้รองเลขาธิการ กสทช. สายงานยุทธศาสตร์และกิจการองค์กร (นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล) ยังดำรงตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. หรือไม่ จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น ตามความเห็นที่ปรากฏในรายงานฯ
ผลการลงมติครั้งแรก
ที่ประชุมเสียงข้างมาก (กสทช. พลอากาศโท ดร. ธนพันธุ์ฯ ,กสทช. ศาสตราจารย์ ดร. พิรงรองฯ ,กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัชฯ และ กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. สมภพฯ) มีมติไม่เห็นชอบให้รองเลขาธิการกสทช. สายงานยุทธศาสตร์และกิจการองค์กร (นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกูล) ดำรงตำแหน่งรักษาการ เลขาธิการ กสทช. จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้นตามความเห็นที่ปรากฎในรายงานฯ
ประชุมเสียงข้างน้อย (กสทช. พลตำรวจเอก ดร. ณัฐธรฯ) มีมติเห็นชอบให้รองเลขาธิการ กสทช. สายงานยุทธศาสตร์และกิจการองค์กร (นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล) ดำรงตำแหน่งรักษาการ เลขาธิการ กสทช. จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น ตามความเห็นที่ปรากฏในรายงานฯ
ประธาน กสทช. และ กสทช. ต่อพงศ์ฯ งดออกเสียง
2.3 เนื่องจาก กรรมการ กสทช. หลายท่านขอให้นำประเด็นการลงมติตามข้อ 2.1 และข้อ 2.2 ขึ้นมาพิจารณาใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติกฎหมาย ซึ่งที่ประชุมได้ดำเนินการให้เป็นไปตาม ข้อ 45 ของระเบียบกสทช. ว่าด้วยข้อบังคับการประชุม กสทช. พ.ศ.2555 โดยประธาน กสทช. ขอให้ที่ประชุมพิจารณา โดยมีผลการลงมติ ดังนี้
ที่ประชุมเสียงข้างมาก (ประธาน กสทช. ,กสทช. พลอากาศโท ดร. ธนพันธุ์ฯ ,กสทช. ศาสตราจารย์ ดร. พิรงรองฯ ,กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. ศุภัชฯ ,กสทช. พลตำรวจเอก ดร. ณัฐธรฯ และกสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. สมภพฯ) เห็นชอบให้มีการพิจารณาใหม่อีกครั้ง
กสทช. ต่อพงศ์ฯ งดออกเสียง
@ลงมติครั้งที่ 2 บอร์ดยืนเปลี่ยนตัว‘รักษาการเลขาธิการ กสทช.’
2.4 การพิจารณาใหม่อีกครั้ง ที่ประชุมมีการลงมติในประเด็นที่ให้มีการเปลี่ยนตัวรองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. จนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น ตามความเห็นที่ปรากฎในรายงานฯ
ที่ประชุมเสียงข้างมาก (กสทช. พลอากาศโท ดร. ธนพันธุ์ฯ , กสทช. ศาสตราจารย์ ดร. พิรงรองฯ ,กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัชฯ และกสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. สมภพฯ) มีมติเห็นชอบให้มีการเปลี่ยนตัวรองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.
ที่ประชุมเสียงข้างน้อย (กสทช. ต่อพงศ์ฯ และ กสทช. พลตำรวจเอก ดร.ณัฐธรฯ) มีมติไม่เห็นชอบให้มีการเปลี่ยนตัวรองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.
ประธาน กสทช. งดออกเสียง
@ไฟเขียวตั้ง ‘ภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ’ เป็นรักษาการเลขาธิการฯ
2.5 การพิจารณาลงมติในประเด็นเห็นชอบให้แต่งตั้งรองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ) เป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ทั้งนี้ ตามข้อ 6 ของระเบียบ กสทช.ว่าด้วยการรักษาการแทน การปฏิบัติการแทน
และการปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนในตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. และพนักงานของสำนักงาน กสทช. พ.ศ.2555 ตามที่ กสทช. พลอากาศโท ดร. ธนพันธุ์ฯ เสนอ เนื่องจากเป็นรองเลขาธิการ กสทช. ที่มีอาวุโสสูงสุด
ที่ประชุมเสียงข้างมาก (ประธาน กสทช. ,กสทช. พลอากาศโท ดร. ธนพันธุ์ฯ ,กสทช.ศาสตราจารย์ ดร. พิรงรองฯ ,กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. ศุภัชฯ ,กสทช. พลตำรวจเอก ดร. ณัฐธรฯ และกสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. สมภพฯ) เห็นชอบให้แต่งตั้งรองเลขาธิการ กสทช.สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ) เป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.
กสทช. ต่อพงศ์ฯ งดออกเสียง
@โหวตซ้ำรอบ 2 กสทช.เสียงข้างมากยืนยันตั้งสอบ ‘ไตรรัตน์’
2.6 การพิจารณาใหม่อีกครั้ง ที่ประชุมมีการพิจารณาลงมติในประเด็นให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2565 กรณีที่ปรากฏตามรายงานฯข้อ 1 โดยมีผลการพิจารณาลงมติ ดังนี้
ผลการลงมติในการพิจารณาใหม่อีกครั้ง
ที่ประชุมเสียงข้างมาก (กสทช. พลอากาศโท ดร. ธนพันธุ์ฯ ,กสทช.ศาสตราจารย์ ดร. พิรงรองฯ ,กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. ศุภัชฯ และ กสทช. รองศาสตราจารย์ ดร. สมภพฯ) มีมติเห็นชอบให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2565
ที่ประชุมเสียงข้างน้อย (กสทช. พลตำรวจเอก ดร. ณัฐธรฯ) มีมติไม่เห็นชอบให้สำนักงาน กสทช. ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล พ.ศ.2565
ประธาน กสทช. และ กสทช. ต่อพงศ์ฯ งดออกเสียง
@'บอร์ด'ให้'สำนักงาน กสทช.'รับข้อเสนอแนะไปปฏิบัติ
3. ให้สำนักงาน กสทช. นำข้อเสนอพิจารณาในข้อ 2 ที่เกี่ยวกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอื่นเกี่ยวกับการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ และการปรับปรุงประกาศ กสทช. ที่เกี่ยวข้อง ตามรายงานฯนำเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาอีกครั้ง
หมายเหตุ
1. การพิจารณาในวาระนี้เป็นการประชุมลับตามข้อ 17 ของระเบียบ กสทช. ว่าด้วยข้อบังคับการประชุม กสทช. พ.ศ.2555
2. ในการประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ที่ประชุมได้มีมติรับรองมติที่ประชุมกสทช. วาระที่ 5.22 เรื่อง รายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินการของสำนักงาน กสทช.เกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (ลับ)
เหล่านี้เป็นรายละเอียดของมติที่ประชุม กสทช. (ลับ) กรณีเห็นชอบให้ 'ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล' พ้นจากตำแหน่งรักษาการเลขาธิการ กสทช. และให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีค่าซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 600 ล้านบาท รวมถึงมติที่ให้ 'ผศ.ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ' รองเลขาธิการ กสทช. ทำหน้าที่รักษาการเลขาธิการ กสทช.
แต่ทว่าในท้ายที่สุด มติ กสทช. เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2566 ดังกล่าว ไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติจริงจัง เพราะเหตุว่าประธาน กสทช. ‘ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์’ หักมติบอร์ดเสียเอง?
18 ส.ค. 2567