Last updated: 21 ธ.ค. 2565 | 3330 จำนวนผู้เข้าชม |
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'เสมา หรือสุชาติ วนะสิทธิ์' อดีตผอ.ศูนย์ท่องเที่ยวกีฬานันทนาการ จังหวัดพัทลุง ทุจริตปลอมเอกสารอนุมัติเบิกเงินค่าเช่าบ้านลูกน้อง นำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว ก่อนอ้างยังไม่ตกเบิก ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษจำคุก 8 กระทง 24 ปี 32 เดือน ไม่รอลงอาญา คืนเงิน 36,000 บาท
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายเสมา หรือสุชาติวนะสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการ จังหวัดพัทลุง ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเพื่ออนุมัติเบิกเงินค่าเช่าบ้านของผู้กล่าวหา จากทางราชการ และนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัวโดยทุจริต มิได้นำไปให้ผู้กล่าวหา แต่กลับแจ้งเท็จแก่ผู้กล่าวหาว่า เงินยังไม่ตกเบิก
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 และ 147 ประกอบมาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาว่า นายเสมา หรือสุชาติ วนะสิทธิ์ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามมาตรา 91
จำคุกกระทงละ 5 ปี
คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง จึงมีเหตุบรรเทาโทษเห็นสมควรลดโทษให้หนึ่งในสาม
คงจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน
จำเลยกระทำความผิด 8 กระทง รวมจำคุก 24 ปี 32 เดือน
ให้จำเลยคืนเงินจำนวน 36,000 บาท แก่ศูนย์การท่องเที่ยว กีฬา และนันทนาการจังหวัดพัทลุง ผู้เสียหาย
ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท