Last updated: 3 ต.ค. 2565 | 1698 จำนวนผู้เข้าชม |
เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สุนทร ร่มเย็น' อดีตหน.งานบริการศึกษา ม.รามคำแหง ปราจีนบุรี เบียดบังเงินค่าลงทะเบียน-เทียบโอนหน่วยกิต-ตำราเรียนวิชากม. ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 2 พิพากษาลงโทษจำคุก 60 เดือน แต่รอลงอาญา หลังเจ้าตัวรับสารภาพ ปรับอีก 100,000 บาท - ป.ป.ช.ค้าน อสส.ไม่อุทธรณ์สู้
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายสุนทร ร่มเย็น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการศึกษา 4 หัวหน้างานบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยาบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดปราจีนบุรี เบียดบังเงินค่าลงทะเบียน ค่าเทียบโอนหน่วยกิต และค่าตำราเรียนวิชากฎหมาย ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน
ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4, 11 ประกอบ ปอ. มาตรา 90 และมาตรา 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำพิพากษาว่า นายสุนทร ร่มเย็น จำเลยมีความผิดตามมาตรา 11
การกระทำของจำเลยเป็นความผิด 10 กรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม เป็นกระทงความผิดไป ตาม ปอ.มาตรา 91
ลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี และปรับกระทงละ 20,000 บาท รวมจำคุก 10 ปี ปรับ 200,000 บาท
จำเลย ให้การรับสารภาพลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 60 เดือน และปรับ 100,000 บาท
โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปี
ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
อย่างไรก็ดี สำหรับคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 ไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2
สำหรับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จอมพล ส. ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี
ที่มา : สำนักข่าวอิศรา