Last updated: 21 ธ.ค. 2562 | 5722 จำนวนผู้เข้าชม |
ยกวัดชลประทานต้นแบบ “วัดช่อสะอาด” บริหารด้วยเงินกองกลาง
วันที่ 21 ธันวาคม 2562 ณ สวนธรรมศรีปทุม ตำบลบ้านเกาะ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี มูลนิธิต่อต้านการทุจริต หลักสูตรสาขาวิชาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดโครงการพัฒนาพระสงฆ์ช่อสะอาด ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งอบรมพัฒนาพระสงฆ์ สร้างกิจกรรมที่ประกอบไปด้วยหลักธรรมะ ด้วยการส่งเสริมสนับสนุนเพิ่มพูนทักษะและศักยภาพพระสงฆ์ให้มีองค์ความรู้และมีความสามารถในการนำหลักการวิธีการที่ได้ในการอบรมไปปรับประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนของตนเอง
พระปัญญานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ จังหวัดนนทบุรี ได้บรรยายธรรม ภายใต้หัวข้อ พระสงฆ์ยุคใหม่กับการสืบสาน รักษา ต่อยอด สุจริตวัฒนธรรมเพื่อสังคมไทยสะอาด ให้กับพระสงฆ์ช่อสะอาดจากทั่วประเทศ ท่านได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า
“พระสงฆ์ช่อสะอาดต้องมีปณิธานที่เข้มแข็ง คือ กล้าจน – ทดเสียดสี – หนีสะสม – นิยมสร้างสรรค์ โดยพระพุทธเจ้าเป็นต้นแบบของสุจริตธรรม ซึ่งมีความเสียสละเป็นทุน พระสงฆ์จึงต้องมีความสะอาดเป็นต้นแบบ โดยยกตัวอย่างวัดปัญญานะนนทารามและวัดชลประทานรังสฤษดิ์ เป็นต้นแบบของวัดช่อสะอาดในการบริหารจัดการทรัพย์สิน โดยใช้คำว่า “เงินกองกลาง” เงินวัดต้องมีระบบการเบิกจ่ายมีระบบ เริ่มจากสังคมพระต้องมีความสะอาดเป็นฐาน ความบริสุทธิ์จึงมีคุณค่า...”
พระปัญญานันทะมุนีกล่าวย้ำต่อว่า เราต้องลงมือทำจริงจังจนสำเร็จ ด้วยคำว่า กัดไม่ปล่อย ถอยไม่มี หนีไม่เป็น ใจเย็นสู้งาน อันหมายถึงอิทธิบาทธรรม อันทำให้เกิดความสำเร็จ อย่าจนความคิดแต่จงลงมือทำอย่าจริงจัง โดยส่วนตัวตั้งแต่เป็นสามเณรได้รับแรงบันดาลใจจากหลวงพ่อพระปัญญานันทมุนี สมัยเป็นเจ้าอาวาสวัดปัญญานันทาราม ได้มีโอกาสไปฝึกการทำงานด้านเผยแผ่อย่างจริงจัง จึงขอกราบในความเมตตาของหลวงพ่อที่เมตตา และมาร่วมสร้างอุดมการณ์ให้พระสงฆ์ในการทำงานเพื่อสังคม หลวงพ่อกล่าวย้ำว่า พระสงฆ์ต้อง ประพฤติต้องย้อนยุค หมายถึง ปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธเจ้าตามธรรมวินัย ส่วนความคิดต้องล้ำยุค หมายถึง นำศาสตร์สมัยใหม่มาประยุกต์บูรณาการการทำงานในยุคปัจจุบัน...
สำหรับโครงการพัฒนาพระสงฆ์ช่อสะอาดปีนี้จัดเป็นปีที่ 2 โดยมีเป้าหมายอบรมพระสงฆ์หมู่บ้านช่อสะอาดและพระสงฆ์ทั่วไป จำนวน 120 รูป เพื่อให้พระสงฆ์ได้อบรมพัฒนาด้านจิตใจ ด้วยหลักปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ เพื่อกล่อมเกลาจิตใจ ยกระดับจิตใจให้สะอาด อ่อนโยน เป็นพระสงฆ์ที่สะอาดบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ จนสามารถนาไปสู่การพัฒนาคนในชุมชน สังคม ให้เกิดคุณธรรมจริยธรรมโดยเฉพาะความซื่อสัตย์สุจริตในทุกมิติทั้งด้านกาย พฤติกรรม จิตใจ และปัญญา เมื่อกายมีอาชีพที่สุจริตไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พฤติกรรมไม่มุ่งแย่งชิง หรือทุจริต คดโกง จิตใจไม่ละโมบโลภมาก และปัญญาที่ไม่แสวงหาช่องทางทุจริต ย่อมส่งผล ความสุจริตของครอบครัว ทั้งพ่อ แม่ และลูกด้วย ความสะอาดของแต่ละครอบครัวจึงส่งผลต่อความสะอาดของหมู่บ้านในภาพรวมอันเป็นหน่วยนับรวมของครอบครัว และจะส่งผลต่อสังคม ประเทศชาติให้มีความสะอาดต่อไป โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 24 ธันวาคม 2562 นี้